Wednesday, January 24, 2018

กรดไหลย้อน ห้ามกินอะไรบ้าง โดย รู้ไว้มีสุข (กิ๊ก) เป็นครั้งที่ 2 เมื่อกลางปี 2553, Gastro-Esophageal Reflux Disease; GERD

รู้ไว้มีสุข กรดไหลย้อย
1.3
แชร์ประสบการณ์.....รักษากรดไหลย้อน
ตอนที่ ๑/๓

          คำแนะนำ ผู้เขียนขอแนะนำให้ผู้ที่เข้ามาหาความรู้บนเว็บไซต์ ให้ความสำคัญกับอาการและสาเหตุที่เป็นโรค เพื่อปรับวิถีชีวิตหลีกเลี่ยงความเสี่ยงที่จะเกิดโรค ส่วนผู้ที่ต้องการแบ่งปันความรู้และประสบการณ์ด้านสุขภาพ (Blogger ท่านอื่น) ผู้เขียนอยากให้ท่านให้ข้อมูลเบื้องต้นที่เกี่ยวข้องกับความเจ็บป่วยหรือการรักษาโรค เช่น อายุ เพศ อาชีพ (คร่าวๆ) สาเหตุของโรค พฤติกรรมในชีวิตประจำวัน อาการของโรค ระยะเวลาที่เป็น เวลาในการรักษา ฯลฯ เพื่อข้อมูลที่ท่านแบ่งปันจะได้เป็นประโยชน์แก่ผู้อ่านที่จะได้นำความรู้ไปประยุกต์ใช้ให้เหมาะสมกับผู้ป่วยอื่นต่อไป

อายุ อาชีพการงาน และการใช้ชีวิตของผม
     อายุ 30 ต้นๆ 
     อาชีพ โปรแกรมเมอร์ นอนดึก ทำงานใช้คอมพิวเตอร์อย่างหักโหมจนปวดกล้ามเนื้อ เส้นเอ็นมาตลอด จึงหยุดงานมาเรียนปริญญาโท ภาคปกติ 
     ไม่ใช่คนทานกาแฟทุกวัน ทานกาแฟเฉลี่ยเดือนละ 1 ครั้ง, ไม่ดื่มน้ำอัดลม, ดื่มแต่น้ำสะอาดไม่เย็น 
     โรคประจำตัว เป็นคนธาตุเย็นและธาตุอ่อน (ท้องอ่อน) ท้องเสียง่ายมาก 
     กรุ๊ปเลือด โอ
สาเหตุ และ อาการกรดไหลย้อนที่ผมเป็น
         จากความเครียด และการรับประทานก่อนนอน เพราะเรียนปริญญาโทในสาขาที่ยากมาก ต้องอ่านหนังสือทบทวนบทเรียนทุกคืน จึงอดที่จะรับประทานอาหารมื้อหนักกลางดึกไม่ได้ 

          วันแรกที่ผมรู้ว่าป่วย จำได้ว่า เปิดเทอมไปได้ประมาณ 5 สัปดาห์ ผมเองก็ไม่รู้ตัวมาก่อนว่าเครียด เพราะตัวผมเองพอใจกับการเรียนที่เรียนเข้าใจ ทำแบบฝึกหัดได้ สอบ Quiz ได้เต็ม โดยไม่ได้ตระหนักว่ามันต้องแลกมาด้วยความขยัน อ่านหนังสือและทำแบบฝึกหัดทุกข้ออย่างหนัก การอ่านหนังสือดึก กินก่อนนอน ตื่นเช้า ไม่ได้ทานอาหารมื้อเช้าเพราะต้องเข้าเรียนแปดโมงเกือบทุกเช้า จึงทำให้ทานอาหารไม่ถูกหลัก สุขภาพของผมจึงแย่ลงโดยไม่รู้ตัว จนกระทั่งวันหนึ่งผมถ่ายท้อง ท้องเสีย อุจจาระเหลวตอนสายที่มหาวิทยาลัย ทั้งๆที่ไม่ได้ทานของสกปรกเลย ทำให้ผมรู้ว่า บางครั้งคนเราเครียด แต่ไม่รู้ตัวว่าเครียด สุขภาพจึงแย่ลงโดยไม่รู้ตัว 

          หลังจากวันนั้น ผมก็รู้ว่า ร่างกายตนเอง ต้องมีอะไรผิดปกติแน่ แต่ก็ยังไม่ไปหาหมอ เพราะรู้ตัวเองมาแต่ก่อนแล้วว่า ทุกครั้งที่เครียด จะถ่ายท้อง ท้องเสีย จึงไม่ได้คิดหรือกังวลอะไรมาก 


          ดังนั้นผมจึงไม่ได้ระวังในการทานอาหาร หรือ ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม คือ ยังทานอาหารปกติ ไม่ได้เคี้ยวอาหารช้าๆให้ละเอียด ไม่ได้ออกกำลังกาย และยังรับประทานอาหารช่วงดึก ก่อนนอนเพราะต้องอ่านหนังสือ และก็ยังคงเครียดเรื่องเรียนมากขึ้น หลังจากนั้นประมาณ 2 สัปดาห์ เริ่มมีอาการแสบท้อง ก็คิดว่าใกล้สอบ เครียด น้ำกรดในกระเพาะอาหารคงออกมามาก จึงไปหาหมอ หมอก็ถามว่า ทานก่อนนอนไหม .... ท้องผูกบ้างหรือเปล่า ผมจึงบอกว่า ผมมีอาการท้องผูก ทานก่อนนอน อาการช่วงนี้ยังแค่แสบท้อง ยังไม่มีอาการจุกที่คอ หรือ ท้องอืด ก็เพียงรับยาลดกรดจากหมอไปทาน 

          ความเครียดในการเรียนของผมยังไม่ลดลง แต่เพราะความเข้าใจผิด ทำให้ไปกินอาหารที่ไม่เหมาะกับตัวเรา พอดีเห็นขนมบังแซนวิซวางขายใต้สะพานลอย ผมต้องเข้าเรียนแปดโมงเช้า ถ้าไม่ได้ทานข้าวเช้าจะแสบท้อง และคิดว่าขนมบังคงช่วยดูดซับกรดได้ จำใจต้องซื้อมาทาน บางวันก็ทานเม็ดทานตะวัน เมล็ดฟักทองเพราะคิดว่า มันย่อยยากคงจะไปซับกรด ซับน้ำย่อยไม่ให้แสบท้อง บางครั้งก็ทานนม แต่อาการโดยรวมกลับไม่ดีขึ้น กลับแย่ลงกว่าเดิม (ทั้งๆที่ดื่มน้ำกะเพราช่วยแล้ว) คือ มีอาการท้องอืด จุกที่คอ แน่นหน้าอกเพิ่มขึ้น หลังจากนั้นจึงถามพี่สหายธรรมที่เป็นโรคนี้ เขาแนะนำให้ทานผักต้ม และอาหารอ่อนย่อยง่าย + ขมิ้นชัน ไม่ให้ทานอะไรทั้งนั้น จึงทำให้อาการผมทุเลาลง พอผมหายเครียด.....ผมอาการดีขึ้น ก็หายจากโรคนี้ครับ ใช้เวลาป่วยประมาณ 3 เดือนและค่อยๆใช้เวลาดูแลจนอาการดีขึ้น 3 เดือน และกว่าจะหายสนิทใช้เวลาอีก 3 เดือน

อาการกรดไหลย้อนที่ผมเป็น
     1. ไม่เกิน 30 นาทีหลังตื่นนอน ก่อนเวลารับประทานอาหารในแต่ละมื้อ และ ก่อนนอน หลัง 21.00 น. ผมแสบท้องประจำ บางครั้งปวดท้องเหมือนลำไส้ถูกบิด 

     2. จุกแน่นที่คอ รำคาญ รู้สึกเหมือนมีก้างหรือเสมหะติดคอ 

     3. เรอตลอดวัน
เป็นก้อนลมเล็กๆ โดยเฉพาะหลังรับประทานอาหารหรือดื่มน้ำ, หลายครั้งรู้สึกอึดอัด มีลมในท้อง แต่ไม่ออกมาเป็นเรอ, บางครั้งก็เรอเหม็นเปรี้ยว และไม่ผายลมเลย 


     4. ท้องผูก ท้องอืด ท้องป่อง อาหารไม่ย่อย 


     5. แน่นหน้าอก แสบร้อนกลางทรวงอก
โดยเฉพาะเวลาเครียดและหลังรับประทานของหวาน 


     6. ทานอาหารแล้ว.....รู้สึกไม่อิ่ม รู้สึกหิวตลอดเวลา
(ทรมานมาก) อยากทานอาหารเข้าไปอีก หิวเร็ว หิวง่าย ป่วยจากกรดไหลย้อน จนจำไม่ได้ว่า ตนเองทานอะไรแล้วแสลง หรือ เคยทานอาหารปริมาณเดิมเท่าไรในแต่ละมื้อในแต่ละวัน 


     7. อยากทานอาหารทุกอย่าง เห็นอะไรก็อยากทานไปหมด อาหารที่ไม่เคยกินหรือไม่ชอบทาน ก็อยากทาน โดยเฉพาะของหวาน และ อาหารแสลง เช่น ขนมเปี๊ยะ น้ำหวาน ฯลฯ

     8.
รู้สึกคลื่นไส้กระอักกระอ่วน หลังรับประทานอาหารหรือท้องว่างโดยเฉพาะของหวานและกาแฟ 


     9. ไอแห้งๆ
ไม่มีเสมหะก่อนนอน และตื่นกลางดึกขึ้นมาไอแห้งๆ 


     10. ตื่นนอนปากเหม็น ขมคอนิดหน่อย ถ้ากินแป้งมากในมื้อเย็น ตอนเช้าจะปากเหม็นเหมือนกลิ่นแป้งบูด บางครั้งทานเลือดต้มในตอนเย็น ตื่นนอนก็ปากเหม็นกลิ่นเลือดต้ม


ประสบการณ์เกือบตาย 
ท้องอืด อันตรายจากของหวาน ทำให้อาการกรดไหลย้อนอื่นๆเพิ่มขึ้น
          ช่วงที่ผมป่วยเป็นโรคกรดไหลย้อน มีอยู่ครั้งหนึ่ง ผมจะทานอาหารกลางวันแต่ไม่อยากออกนอกบ้านไปซื้ออะไรมาทาน เห็นในตู้กับข้าวมีขนมบัวลอยไข่หวาน 2 ถุงกับลอดช่องอีก 1 ถุง ที่คุณป้าข้างบ้านให้มา ผมจึงทานขนมเป็นอาหารกลางวันจนหมดเกลี้ยง ไม่เหลือแม้แต่น้ำกะทิ 

          ปรากฏว่า วันนั้นท้องอืดรุนแรง รู้สึกคอแห้งมาก ดื่มน้ำลงไปก็รู้สึกราวกับว่าน้ำไม่ได้ผ่านลำคอเลย และท้องก็ป่องขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งแสดงว่า ร่างกายของผมไม่ดูดซึมอะไรเลย ขนาดผิวหนังยังแห้งแตก ลอกเป็นขุย ทั้งๆที่ไม่ใช่ฤดูหนาว และทั้งๆที่ผมดื่มน้ำเข้าไปขนาดนั้นผมยังคงคอแห้งและกระหายน้ำเช่นเดิม จนกระทั่งถึง 16.00 ได้ทานยาช่วยย่อยอาหารไป 2 เม็ด จึงรู้สึกดีขึ้น 

          อีกเรื่องหนึ่งที่น่าสังเกต คือ ผมไม่ปัสสาวะตั้งแต่ 10.00 น.ไปปัสสาวะอีกครั้งตอน 18.00 น.หลังจากทานยาช่วยย่อยอาหารไปแล้ว ผมรู้สึกได้เลยครับว่า ท้องอืด อาหารไม่ย่อย ก็ทำให้คนเราตายได้เช่นกัน จากประสบการณ์ครั้งนี้ ผมรู้ว่า อาหารหวาน ทำให้ท้องอืดอย่างแน่นอน 

แชร์ประสบการณ์.....รักษากรดไหลย้อน
ตอนที่ ๒/๓


อาหารแสลงและอาหารที่เหมาะกับโรคกรดไหลย้อน 
จากประสบการณ์ส่วนตัว
อาหารที่เหมาะกับผู้ป่วยกรดไหลย้อน
          แนวทางการรับประทานอาหารที่ช่วยฟื้นฟูระบบย่อยอาหารจากอาการกรดไหลย้อน คือ บริโภคอาหารที่ไม่เพิ่มภาระให้กับระบบย่อยอาหาร ดังนั้นจึงเป็นอาหารประเภท

     1. อาหารรสจืด ที่ไม่ระคายเคืองกระเพาะอาหารและลำไส้

     2. อาหารอ่อน ย่อยง่าย ร้อน สุกใหม่ รวมไปถึงน้ำอุ่นด้วย เพราะย่อยง่าย ช่วยย่อย ช่วยไม่ให้ท้องอืด

     3. อาหารที่มีกากใยสูง ช่วยในการระบาย ทำความสะอาดของเสียและสิ่งตกค้างในลำไส้ เช่น ผักต้ม

     4. อาหารที่ไม่มีฤทธิ์เป็นกรด อาหารที่เป็นกรดได้แก่ ผักสด โดยเฉพาะผักไฮโดรโปรนิค ซึ่งมีสารอาหาร วิตามิน เกลือแร่สูงกว่าผักปลูกทั่วไป น้ำอัดลม หรือ แม้แต่น้ำย่อยในกระเพาะอาหารอันเนื่องมาจากการรับประทานอาหารไม่ตรงเวลา กรดเหล่านี้จะทำลายจุลินทรีย์ในลำไส้ มีส่วนทำให้ท้องอืด กระเพาะและลำไส้ย่อยอาหารได้ช้า และอาหารที่มีฤทธิ์เป็นกรดบางอย่างก็ทำให้น้ำย่อยทำงานได้ไม่เต็มที่

     5. ทานอาหารที่่ไม่ผ่านกรรมวิธีการผลิต เช่น ถ้าต้องการได้คาร์โบไฮเดรต ผมเลือกทานข้าว ไม่ทานก๋วยเตี๋ยวหรือขนมจีน ถ้าต้องการได้โปรตีน ทานหมูทอด หมูต้ม ดีกว่าไส้กรอก ลูกชิ้น


อาหารแสลงกับโรคกรดไหลย้อน

     1. น้ำตาล ของหวาน น้ำตาลเทียม น้ำตาลไอซิ่ง ช็อกโกแลต น้ำอัดลมทุกชนิด น้ำหวานทุกชนิด ไอศกรีม ฯลฯ เช่น ขนมผิง ขนมบัวลอยไข่หวาน ลอดช่องน้ำกะทิ ปลากริมไข่เต่า ทองหยิบ ทองหยอด ฝอยทอง เป็นต้น ของหวานเหล่านี้ทำให้ผนังลำไส้บวม ท้องอืด รู้สึกจุกที่คอหลังรับประทาน 

     2.
อาหารที่มีส่วนผสมของผงฟูทำขนมปัง เช่น ขนมปัง ขนมเค้ก โดนัท พาย คุกกี้ แยม ขนมถ้วยฟู ขนมโตเกียว ขนมเครปญี่ปุ่น ขนมเบื้อง ขนมโมจิ ขนมรังผึ้ง ฯลฯ อาหารเหล่านี้มียีสต์ หากระบบย่อยอาหารไม่ดี เกิดการหมักของแป้งและยีสต์เหล่านี้ ซึ่งก่อให้เกิดกรดและลมในลำไส้ ทำให้ผนังลำไส้บวม แน่นท้อง ท้องอืด อาหารไม่มีการเคลื่อนไหว อาหารไม่ย่อยได้ ยิ่งมียีสต์มาก ยิ่งทำให้เกิดอาการกรดไหลย้อนมาก เช่น ขนมปังโฮลวีตทำให้เกิดอาการมากกว่าขนมปังธรรมดาเสียอีก หากรับประทานอาหารที่มีส่วนผสมของผงฟูเหล่านี้เข้าไป จะไม่ก่อให้เกิดอาการกรดไหลย้อนหลังรับประทานอาหารทันที แต่จะก่อให้เกิดอาการเมื่ออาหารเหล่านี้เคลื่อนตัวไปสู่ลำไส้ 


     3. กาแฟ ชา ชาเชียว ชานมไข่มุก น้ำเย็น ทำให้ท้องอืด ดังนั้นจึงควรดื่มน้ำอุ่นหลังรับประทานอาหาร เพื่อช่วยย่อยอาหาร
 


     4. นมสด นมเปรี้ยว และอาหารที่มีส่วนประกอบของนม ร่างกายบางคนอาจไม่มีน้ำย่อยๆอาหารประเภทนี้อยู่แล้ว และถึงแม้บางคนจะมีแต่ช่วงที่เป็นโรคกรดไหลย้อน ปริมาณกรด(ในกระเพาะอาหาร)มีมากกว่าปกติ ทำให้น้ำย่อยทำงานได้ไม่เต็มที จึงไม่ควรรับประทานนม นมเปรี้ยวในช่วงนี้ เพราะจะทำให้ท้องอืด 


     น้องชายคนหนึ่ง อายุประมาณ 28 ปี ดื่มนมก่อนนอนเป็นประจำ ปรากฏว่า ช่วงหลังๆมีอาการท้องอืดในตอนเช้า ท้องป่องเหมือนนมที่ดื่มเข้าไปก่อนนอนไม่ย่อย แต่เมื่อเขาเลิกดื่มนมก่อนนอน ในวันที่ 3 ก็ไม่มีอาการท้องอืดอีก ซึ่งทำให้เขารู้ว่า ร่างกายของเขาเริ่มย่อยนมไม่ได้ 

     ไม่ควรเข้าใจผิดว่า การดื่มนมช่วยเคลือบกระเพาะอาหารไม่ให้ถูกกรดในกระเพาะอาหารทำลาย แท้จริงแล้วกระเพาะอาการของเราทนกรดได้อยู่แล้ว แต่ลำไส้ไม่สามารถทนกรดได้ ยิ่งนมเป็นโปรตีนมีความเป็นกรดในตัว ถ้าร่างกายไม่สามารถย่อยได้ก็จะทำให้เกิดการหมัก เกิดแก๊สในท้อง และท้องอืดเพราะนมได้ 


     5. อาหารที่มีไขมันสูง เครื่องในสัตว์ เช่น เลือด ตับ หัวใจ ไส้ ฯลฯ และอาหารทอดทุกชนิด เช่น ไส้กรอก แฮม ปาท่องโก๋ ปลาทอด ทอดมัน กล้วยแขก ยิ่งทอดกรอบๆยิ่งมีน้ำมันมาก อาหารเหล่านี้ย่อยยาก ทำให้ท้องอืด รวมถึงเมล็ดทานตะวัน เมล็ดฟักทองด้วยเช่นกัน
 


     6.
อาหารที่มีปริมาณแป้งสูง เช่น ขนมเปี๊ยะ ขนมถั่วตัด ฯลฯ อาหารเหล่านี้ทำให้แน่นท้อง จุก ย่อยยาก อีกทั้งยังมีน้ำตาลเป็นส่วนประกอบ 


     7.
อาหารที่ทำมาจากแป้งหมัก เช่น ขนมจีน ไม่ควรทาน 


     8.
ห้ามทานผักสด ในมื้อเย็นเด็ดขาด และช่วงที่เป็นหนักไม่ควรทานผักสดอย่างยิ่ง เนื่องจากผักสดมีฤทธิ์เป็นกรด ทำให้ท้องอืดได้ 


     9.
ข้าวกล้องหรือข้าวซ้อมมือไม่ควรทาน เพราะย่อยยาก 


     10.
ถั่วต่างๆไม่ควรทาน โดยเฉพาะถั่วแดง ย่อยยากมาก ทานได้เฉพาะถั่วเขียวต้มสุก 


     11.
น้ำเต้าหู้ น้ำนมถั่วเหลืองไม่ควรทาน เพราะย่อยยาก
 


     12.
มื้อเย็น ไม่ควรทานก๋วยเตี๋ยว หรือกวยจั๊บน้ำข้นเด็ดขาด เพราะก๋วยเตี๋ยวเป็นอาหารที่ย่อยยากกว่าข้าวต้ม อีกทั้งน้ำซุปอาจมีเกลือและผงชูรสมาก 


     13. อาหารเผ็ด อาหารเปรี้ยว อาหารรสเค็มไม่ควรทาน เพราะทำให้ระคายเคืองกระเพาะอาหารและลำไส้ โดยเฉพาะพริก และ น้ำส้มสายชู จึงควรทานแต่อาหารรสจืด


     14.
หากคุณจำเป็นต้องทานอาหารเสริม ให้ทานตอนเช้า เพราะอาหารเสริมแทบทุกประเภทมีฤทธิ์เป็นกรด ย้ำอีกครั้งก็คือ สารอาหาร วิตามิน เกลือแร่ที่มีปริมาณสูงนั่นแหละที่มีฤทธิ์เป็นกรด โดยเฉพาะวิตามินซี ถ้าเป็นไปได้ให้งดรับประทาน 


     15.
ผลไม้และน้ำผลไม้ทุกชนิด โดยเฉพาะผลไม้ที่มีปริมาณน้ำตาลสูง เช่น เงาะ ลำไย แก้วมังกร แตงโม ฯลฯ และ ทุเรียนซึ่งมีไขมันสูง รวมถึงมะเขือเทศ ซึ่งเป็นกรด ทำให้เกิดลมในท้อง และฝรั่ง ซึ่งทำให้ท้องอืด ช่วงที่ป่วย ผมไม่ทานมะเขือเทศและฝรั่งเลย เพราะเมื่อผมทานเข้าไปแล้ว อาการของผมนอกจากจะไม่ดีขึ้น ยังแย่ลงมากขึ้นด้วยครับ 


     อีกประการหนึ่ง น้ำผลไม้ไม่มีกากหรือใยอาหาร จึงมีน้ำตาลในปริมาณสูง ลองสังเกต ข้อมูลโภชนาการ (Nutrition Facts) ที่ติดอยู่ข้างผลิตภัณฑ์ดูซิครับ 

     16. ของหมักดอง ผลไม้หมักดองต่างๆ (รสเปรี้ยวทั้งนั้น)
เช่น มะม่วงแช่อิ่ม ฯลฯ อาหารเหล่านี้มีรสเปรี้ยว มีความเป็นกรดสูง ซึ่งเพิ่มความเป็นกรดในการย่อยอาหาร ทำให้ท้องอืด


ตัวอย่างอาหารที่ผมทาน เพื่อรักษาโรคกรดไหลย้อน
1. ช่วงที่อาหารหนัก แสบท้อง รู้สึกคลื่นไส้ เบื่ออาหาร จุกที่คอ แสบร้อนทรวงอก ท้องอืดทั้งวัน ผมรับประทานแต่อาหารอ่อน ย่อยง่าย โดย 

     มื้อเช้าทาน โจ๊ก
+หมูต้ม+ผักต้ม
     มื้อกลางวันข้าว+
แกงจืด+ผักต้ม
     มื้อเย็นกลับมาทานที่บ้าน ทานเพียงรองท้อง คือ ทานเพียงข้าวต้ม
+หมูต้ม+ผักต้ม
 


2.
ช่วงที่อาการดีขึ้น หายแสบท้อง แต่ยังคงมีอาการท้องอืดหลังรับประทานอาหาร จุกที่คอ แสบร้อนทรวงอกบ้าง 


     ผมรับประทาน มื้อเช้า ข้าวสวย
+หมูต้ม+ผักต้ม+แกงจืด
     มื้อกลางวัน ก๋วยเตี๋ยวน้ำใส
+หมูต้ม+
ผักต้ม
     มื้อเย็น ทานเพียงรองท้อง คือทานเพียงข้าวต้ม
+หมูต้ม+ผักต้ม
 


3.
ช่วงที่อาการดีขึ้น ท้องอืดเฉพาะมื้อเย็น แน่นหน้าอกนิดๆ และมื้อที่ทานอาหารแสลง 


     ผมรับประทาน มื้อเช้า อาหารปกติ
+ผักสด+ผักต้ม แต่ยังคงเว้นอาหารแสลง
     มื้อกลางวัน อาหารปกติ
+
ผักต้ม แต่ยังคงเว้นอาหารแสลง
     มื้อเย็น ทานเพียงข้าว
+หมูต้ม+ผักต้ม
 


4. ปัจจุบัน ผมทานอาหารแสลงเหล่านี้น้อยมาก มื้อเย็น ทานแต่สลัดผลไม้+ผัก หรือไม่ก็สุกี้ ราดหน้า หรือไม่ก็ข้าว+น้ำพริก+ผักต้ม หรือกระเพาะปลา ส่วนมื้อเช้าและกลางวัน ทานปกติสลับสับเปลี่ยนกันไป 

ปล. โจ๊ก ข้าวต้ม หมูต้ม ผมทำทานเองทั้งหมด ไม่ได้ซื้อจากร้านครับ เพราะเขามักจะใส่ผงชูรส หรือน้ำตาลลงในโจ๊กเพื่อให้มีรสชาติอร่อย แต่ไม่เหมาะกับผู้ป่วยโรคกรดไหลย้อน 


แชร์ประสบการณ์.....รักษากรดไหลย้อน
ตอนที่ ๓/๓


อาการกรดไหลย้อนดังต่อไปนี้ ผมรักษาอย่างไร
ท้องอืด แน่นท้อง
          1.
แคปซูลขมิ้นชัน ขนาด 400 มก. ต่อ 1 แคปซูล รับประทานหลังอาหาร 15 - 30 นาที ปริมาณรับประทานตามฉลาก 

          2.
น้ำกะเพรา ดื่ม 1 – 2 แก้ว (แก้วละ 250 มล.) หลังรับประทานอาหาร 15 – 30 นาที 

          ประโยชน์ของขมิ้นชันและน้ำกะเพรา จะช่วยเร่งการย่อยอาหาร โดยเฉพาะอาหารประเภทแป้ง และน้ำตาล ช่วยขับลม ลดกรด ลดอาการแน่นท้อง และช่วยบรรเทาอาการอักเสบของกระเพาะอาหารและลำไส้ได้อีกด้วย 

          ผมรักษาโดยทานขมิ้นชันทุกวัน ทุกมื้อ รวมทั้งก่อนนอนครับ (ตามฉลาก) เพื่อช่วยย่อยอาหารและลดการอักเสบของลำไส้ บางครั้งก็ดื่มน้ำกะเพราร่วมด้วย
 


          3. น้ำขิงต้ม สำหรับผมเป็นคนธาตุเย็น ต้องดื่มน้ำขิงแช่เย็นใส่น้ำแข็ง และน้ำกะเพราร้อน ช่วงที่ป่วยเคยดื่มน้ำขิงร้อน ผมรู้สึกระคายเคืองกระเพาะอาหาร แต่ถ้าดื่มน้ำขิงแช่เย็น ผมรู้สึกสบายท้องมากๆ ส่วนน้ำกะเพรา สำหรับผมต้องเป็นเครื่องดื่มร้อน ถ้าผมดื่มน้ำกะเพราเย็น ผมจะท้องอืด
 

ท้องผูก
          1. 
น้ำมันมะพร้าวธรรมชาติสกัดเย็น (Virgin Coconut oil) รับประทานก่อนนอน ปกติรับประทาน 1 ช้อนโต๊ะ อาการหนัก 2 ช้อนโต๊ะแล้วดื่มน้ำอุ่นค่อนข้างร้อน 1 แก้ว (250 มล.) ตาม 

          ประโยชน์ของน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็นคือ ช่วยฆ่าเชื้อโรคในกระเพาะอาหารและลำไส้ได้ และช่วยระบบขับถ่าย ผมลองทานแล้วครับ ช่วยถ่ายท้องได้ดีขึ้นโดยที่ไม่ทำให้อ้วนขึ้น และไม่รู้สึกเหมือนท้องเสียหรือมีอุจจาระเหลวเลยครับ ถ้ามีอาการถ่ายท้องแบบท้องเสียหรืออุจจาระเหลว ให้ลดปริมาณน้ำมันมะพร้าวลง ผมเคยทานน้ำมันมะพร้าว หลังอาหารทั้ง 3 มื้อ ปรากฏว่า ปวดอุจจาระก่อนเข้านอนและถ่ายเหลว 

          2. ทานผักต้มกับอาหารทุกมื้อ
ช่วยให้มีกาก
ใยสูง รับประทานควบคู่กับน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น จะช่วยให้ขับถ่ายสะดวก 

อาเจียน และรู้สึกแสบร้อนที่ลำคอเพราะฤทธิ์ของกรดที่อาเจียนออกมา 
          น้ำมันมะพร้าวธรรมชาติสกัดเย็น รับประทาน 1 – 2 ช้อนโต๊ะโดยอม แล้วกลั้วคอเหมือนใช้น้ำยาบ้วนปาก –ประมาณ 1 นาที จึงบ้วนทิ้ง หลังจากนั้นล้างปากด้วยน้ำสะอาด แล้วจึงทานน้ำมันมะพร้าวอีกครั้ง โดยกลั้วคอด้วยน้ำมันมะพร้าวนั้นแล้วกลืนลงไป ให้น้ำมันไหลช้าๆลงไปเคลือบคอและหลอดอาหารจนทั่ว ไม่ต้องดื่มน้ำอุ่นตาม จะช่วยลดการอักเสบ ฆ่าเชื้อโรค บรรเทาอาการแสบร้อนช่วยลดอาการแสบคอได้มากครับ 

แสบท้อง ปวดท้องเหมือนลำไส้ถูกบิด (อาการเกิดหลังตื่นนอน ในระหว่างมื้ออาหาร และก่อนนอน)
          1.
สาหร่ายเกลียวทอง ยี่ห้อ GD1 อมเหมือนอมลูกอม แล้วค่อยๆกลืนลงไป
          2. เม็ดแมงลักต้ม เคี้ยวให้ละเอียดก่อนแล้วค่อยกลืนลงไป
          3. กล้วยน้ำว้าสุก เคี้ยวให้ละเอียดก่อนแล้วค่อยกลืนลงไปเช่นกัน

          4.
น้ำกะเพรา
จิบเล็กน้อย เพื่อปรับสมดุลกรดในกระเพาะอาหาร (เหมาะสำหรับคนธาตุเย็น)


แน่นหน้าอก-จุกที่คอ
          งดชา กาแฟ เพราะสารคาเฟอีนทำให้กล้ามเนื้อหูรูดผิดปกติ เสื่อม อ่อนแอ ทำให้แน่นหน้าอก จุกที่คอ และท้องอืด เพราะทำให้ลำไส้บีบไล่อาหาร และย่อยอาหารได้ช้าลง ผมเพิ่งทราบว่า สำหรับบางคนนั้น หากเขาทานกาแฟเข้าไป เขาจะท้องเสียทันทีครับ อีกอย่างหนึ่งตัวชา กาแฟก็มีฤทธิ์เป็นกรดอยู่แล้ว

แสบหน้าอก 
          งดทานน้ำตาล อาหารที่มีน้ำตาล ผลไม้ที่มีน้ำตาลทุกชนิด อาหารที่มีไขมันสูง เช่น ไส้กรอก แฮม เบคอน อาหารเหล่านี้หากย่อยไม่หมด จะทำให้แสบหน้าอกครับ ไม่เชื่อลองทานทองหยอดสัก 5 เม็ดซิครับ


จุกที่ลิ้นปี่
          หลีกเลี่ยงอาหารที่มีวิตามินซีสูง เช่น มะเขือเทศ ฝรั่ง ผักสดใบเขียวบางชนิด 

อาการร้อนท้องภายนอก
          แนะนำให้ทาท้องด้วยน้ำมันตะไคร้หอม คุณแม่ผมใช้อยู่ อาการร้อนท้องทุเลาลงจริง ซึ่งทำให้คุณแม่ผมประทับใจมากครับ ถึงขนาดถามผมว่า มีน้ำมันตะไคร้หอมอีกไหม อย่าเพิ่งเอาไปให้คนอื่น เก็บไว้ให้แม่ใช้นะ เผื่อแม่รู้สึกร้อนท้องอีก
 

เครดิต : พี่แตน + พี่โก๋ + พี่อ้อย และสหายธรรมท่านอื่นๆ
เขียนโดย : รู้ไว้มีสุข (กิ๊ก)
น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น
ช่วยเรื่องท้องผูก


ไฟเบอร์ธรรมชาติ - Psyllium Husk
ขจัดสิ่งตกค้างในลำไส้  ช่วยเรื่องท้องผูก


น้ำใบเตยผสมใบย่านางสกัด




หัวน้ำด่างเข้มข้น สำหรับผสมดื่ม (น้ำอัลคาไลน์)
          พี่โก้ เธออายุครบ 58 ปี ในปีนี้ (2556) เดิมเคยเป็นโรคกรดไหลย้อน จากความเครียดที่พี่ชาย ซึ่งเป็นญาติที่เหลือเพียงคนเดียวตาย  แต่หลังจากที่ดูแลตัวเองเป็นอย่างดี เธอก็หายเป็นปกติ
          ต่อมา เพราะความบังเอิญที่เธอไปทานสลัดบูดเข้า  จึงเป็นโรคกรดไหลย้อนนี้ขึ้นอีกครั้ง โดยมีอาการท้องอืดบ้างเล็กน้อย รู้สึกท้องไส้ไม่ดี ปั่นป่วนเล็กน้อยแต่รู้สึกได้  แม้อาการจะไม่หนักเหมือนครั้งก่อน  แต่เหตุที่เธออายุมาก  อาการเหล่านี้ก็ยังไม่หายสนิท  แม้ว่าจะดูแลตัวเองทั้งในเรื่องการรับประทานยา และ การทานอาหารสุขภาพ (ผักต้ม
, อาหารอ่อนย่อยง่าย) หลีกเลี่ยงอาหารแสลงแล้วก็ตาม

          เวลาผ่านไปนานเกือบ 1 ปีแล้ว แต่อาการของพี่โก๋ก็ยังคงไม่หายสนิทดี  มีอาการเช่นนี้ตลอด.....มากบ้างน้อยมาก  แต่หลังจากได้ดื่มน้ำอัลคาไลน์ ปัจจุบันนี้ เรียกได้ว่า หายเป็นปกติ 

ข้อควรระวัง มีงานวิจัยที่ใช้น้ำด่าง........
          ซึ่งจะใช้ได้ผลเฉพาะกลุ่มมะเร็งกระเพาะอาหาร หรือ กลุ่มติดเชื้อในกระเพาะอาหารเท่าน้ัน ปัญหาที่พบ คือ ยิ่งดื่มน้ำด่างมาก  พยาธิบางชนิดที่ร่างกายเคยทำลายได้ในระบบทางเดินอาหาร ก็จะทำไม่ได้ แล้วสุดท้ายเราก็จะป่วยด้วยตัวพยาธิ
          ความเห็นของผม : ดื่มน้ำด่างได้ในระยะสั้นๆ ไม่ควรดื่มเป็นประจำเหมือนน้ำเปล่า 


          ผมก็ให้คุณแม่ดื่มน้ำด่างนี้ด้วยเช่นกัน เพราะคุณแม่เคยทานยาฆ่าเชื้อเพื่อรักษาโรคกรดไหลย้อน คุณแม่บอกว่า อาการดีขึ้น



ไม่เครียดอย่างนี้..... หายกรดไหลย้อน....แน่


เผยแพร่วันที่ 20 มีนาคม 2555 บนเว็บ bloggang
COMMENT




ลบ comment
ข้อมูลเป็นประโยชน์มากๆขอบคุณมากๆเลยค่ะ


โดย: สุกัญญา IP: 171.97.31.91 วันที่: 9 พฤษภาคม 2555 เวลา:23:51:20 น.

ลบ comment
อ่านรายละเอียดต่างๆ แล้วเข้าใจมากขึ้นว่าทานแต่ยา คงไม่ดีขึ้น ต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินด้วย ขอบคุณมากที่นำมาแบ่งปัน เพราะเมื่อก่อนท้อมาก พอได้อ่านแล้ว คิดว่าเราน่าจะมีโอกาสหายสนิทได้สักที


โดย: ขมเป็นยา IP: 101.51.217.44 วันที่: 20 พฤษภาคม 2555 เวลา:20:06:12 น.

ลบ comment
ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆๆๆๆๆมากๆๆๆ ตอนนี้เป็นกรดไหลย้อน กินอารัยไม่ค่อยย่อย กินแล้วพุงป่องตลอดค่ะ จะพยายามทำตามที่บอกค่ะ แต่ยังมีอารัยสงสัยอีกมามายค่ะ


โดย: หนึ่ง IP: unknown, 223.205.243.2 วันที่: 4 มิถุนายน 2555 เวลา:20:46:59 น.

ลบ comment
ขอบคุณข้อมูลและความรู้ดี ๆค่ะ ดิฉันจะนำปฏิบัติดูเพราะตอนนี้เบื่อกับการกินยาแผนปัจจุบันแล้ว กินและรักษาเป็นปีละอาการไม่หายเลย...ขอบคุณจริงค่ะ


โดย: นิศาชล โนโชติ IP: 118.174.123.224 วันที่: 6 ตุลาคม 2555 เวลา:12:33:08 น.

ลบ comment
ข้าว+น้ำพริก+ผักต้ม หรือกระเพาะปลา ส่วนมื้อเช้าและกลางวัน ทานปกติสลับสับเปลี่ยนกันไป

ถามหน่อยคับ น้ำพริก ทานได้หรอคับ


โดย: แบงค์ IP: 223.206.12.23 วันที่: 24 ตุลาคม 2555 เวลา:21:51:48 น.

ลบ comment
ตอบ คุณแบงค์
- ปัจจุบัน หมายถึง หายจากอาการกรดไหลย้อนแล้ว ทานน้ำพริก ไม่เผ็ดได้ // ที่เขียน หมายความว่า ทานอาหารสุขภาพ ไม่บริโภคอาหาร JUNK FOOD (ทานบ้าง เมื่ออยาก)


โดย: รู้ไว้มีสุข  วันที่: 26 ตุลาคม 2555 เวลา:15:23:27 น.

ลบ comment
ออ คับ เข้าใจแล้วคับขอบคุณมากกกกนะคับ

เป็นข้อมูลที่ดีจริงๆๆ เลย ผมกำลังแย่ออาการนี้อยู่เลยคับ

ทานยามาเป็นปีแล้วอาการยังเหมือนเดิมยุเลยคับ


โดย: แบงค์ IP: 49.49.17.216 วันที่: 27 ตุลาคม 2555 เวลา:21:01:10 น.

ลบ comment
พี่คับ แล้ว ถ้าเป็นขนมปัง เค้ก แซนวิส ตระกูลผึ้งน้อย อะ

คับ ทานได้ป่าวคับ

รู้สึกว่ามันหิวมากๆๆ อยากทานคับ รบกวนหน่อยนะคับ


โดย: แบงค์ IP: 49.49.17.216 วันที่: 28 ตุลาคม 2555 เวลา:10:03:48 น.

ลบ comment
ตอบ คุณแบงค์
- อาหารที่มีส่วนผสมของผงฟูทำขนมปัง ==> ทานไม่ได้ โรคกรดไหลย้อนควรทานแต่อาหารย่อยง่ายๆ ขนมบัง แป้ง+ผงฟู จะทำให้ท้องอืด


โดย: รู้ไว้มีสุข  วันที่: 29 ตุลาคม 2555 เวลา:15:33:03 น.

ลบ comment
ถาม คุณ รู้ไว้มีสุข คับ คุณ เป็นกรดไหลย้อนมานานเท่าไหร่คับ ตอนนี้ผมเป็นมาได้ เกือบ 3 ปี แหน่ะ ก็พยายามปฏิบัติตัวตามอยู่คับ ทานยาหมอไปด้วยทานยามหลายประเภทแล้วคับ แต่ก็ยังมีอาการอยู่คับ ส่องกล้องก็ส่องมาแล้ว 4 ครั้ง แต่ละครั้งหมอก็บอกไม่ตรงกันสักคน งงมากคับ


โดย: แบงค์ IP: 49.49.15.108 วันที่: 4 พฤศจิกายน 2555 เวลา:20:05:15 น.

ลบ comment
เป็นมา 3 เดือน กว่าจะอาการดีขึ้นก็ 6 เดือน กว่าจะหายสนิทจริงๆๆๆๆก็ 1 ปี ที่สำคัญต้องไม่เครียดครับ ยังเครียดก็ยังไม่หาย

ใจเย็นๆครับ


โดย: รู้ไว้มีสุข  วันที่: 5 พฤศจิกายน 2555 เวลา:7:55:40 น.

ลบ comment
ขอบคุณครับ ตอนนี้ผมมีการการเยอะมากเลย เป็นมา 3 ปีได้แล้วครับ ไปส่องกล้องมา หมอบอกแผลอักเสปเรื้อรัง
หมอทำตกใจ ว่า เป็น BARRET แต่ผมการตรวจชิ้นเนื้อ บอกว่า แค่อักเสปเรื้อรัง
ผมต้องทำตาม หัวข้อ ที่อ่านอย่างเคร่งครัดแล้ว ขอบคุณมากครับ ที่ช่วยแชร์ความรู้ ให้ผมได้มีข้อมุลในการปรับปรุงตัวเอง


โดย: อิท IP: 118.173.202.46 วันที่: 14 พฤศจิกายน 2555 เวลา:19:01:54 น.

ลบ comment
ขอสอบถามหน่อยค่ะ วุ้นเส้น นี่ทานได้มัยค่ะ ตอนนี้กำลังเป็นอยู่ค่ะ เป็นมา 5 เดือน แล้ว แต่ก่อนไม่เคยดูแลตัวเองเรื่องอาหารการกินก็เลยหายช้า อีกอย่างดันไปกินกาแฟเข้าก็เลยอาการแย่ไปใหญ่ ตอนนี้เพิ่งรักษาจริงจังมาได้เดือนกว่า ๆ ตอนนี้ก็ดีขึ้นเรื่อย ๆ เคยอ่าเจอในเวบว่าขนมปังโอลสวีททานได้ ก็เลยลองซื้อมาทานดู ปรากฏว่าแสบท้องมาก กินไปแค่แผ่นเดียวเอง ก็เลยไม่ไกล้ากินแล้วค่ะ แล้วถ้าเราหายแล้วพวกของหวานนี่พอจะทานได้บ้างมั้ยค่ะ เพราะบางครั้งเราก็อยากกินแบบคนอื่นเค้ามั่งอ่ะค่ะ


โดย: phimpajee IP: 223.206.17.222 วันที่: 16 พฤศจิกายน 2555 เวลา:19:26:05 น.

ลบ comment
ขอบคุณที่แชร์ประสบการณ์
- วุ้นเส้นทานได้เพราะทำจากถั่วเขียว
- เน้นทานอาหารอ่อน ไม่ทานของหวานเลยก็จะหายได้เร็วครับ


โดย: รู้ไว้มีสุข  วันที่: 16 พฤศจิกายน 2555 เวลา:21:15:03 น.

ลบ comment
ขอบคุณค่ะคุณกิ๊ก


โดย: ปู IP: 101.109.161.68 วันที่: 17 พฤศจิกายน 2555 เวลา:11:35:36 น.

ลบ comment
สวัสดีค่ะ คุณกิ๊ก ได้อ่านเรื่องราวอาการป่วยเป็นกรดไหลย้อนของคุณกิ๊กแล้วค่ะ มีประโยชน์มากเลยค่ะ ตอนนี้ปูเป็นได้ประมาณ 1 สัปดาห์แล้วค่ะ จุกอยู่ที่คอหลังกินอาหาร ตอนกลางคืนแทบไม่ได้นอนเลยค่ะ เจ็บที่คอและมีเสมหะ อยู่ตลอด แต่ตอนนี้ปูปฏิบัติตามคุณกิ๊กทุกอย่างนะคะ เลยจะถามคุณกิ๊กว่า พอคุณกิ๊กหายแล้วคุณกิ๊ก กินอาหารเหมือนคนอื่นๆ ทั่วไปหรือเปล่าคะ หรือยังคงกินข้าวต้ม ผักต้ม หมูต้มอยู่เหมือนเดิม คือเป็นคนชอบกินผลไม้รสเปรี้ยวหวานอ่ะค่ะ เช่น สับปะรด ส้ม มังคุด เมี่ยงปลา ก๊วยเตี๋ยว พวกนี้ทานได้มั้ยคะ


โดย: ปู IP: 101.109.161.68 วันที่: 17 พฤศจิกายน 2555 เวลา:11:43:10 น.

ลบ comment
ช่วงป่วย ควรงดอาหารเปรี้ยวทุกชนิด ปัจจุบันผมทานได้เหมือนเดิม แต่ระวังมากขึ้น โดยเฉพาะอาหารหวานและเผ็ดเพราะร่างกายเสื่อมลงทุกวัน


โดย: รู้ไว้มีสุข  วันที่: 17 พฤศจิกายน 2555 เวลา:20:06:13 น.

ลบ comment
ขอบคุณค่ะ


โดย: ปู IP: 101.108.49.152 วันที่: 18 พฤศจิกายน 2555 เวลา:20:30:07 น.

ลบ comment
รู้สึกดีขึ้นเยอะเลยหลังจากปฏิบัติตัวตามคำแนะนำ

อยากทานอะไรที่เราทานไม่ได้ก็เอามาอมไว้แล้วก็คายทิ้ง

ก็ช่วยได้เยอะอะคับ หายดีดี แล้วค่อยทานเต็มที่


โดย: แบงค์ IP: 223.206.179.98 วันที่: 20 พฤศจิกายน 2555 เวลา:20:51:41 น.

ลบ comment
ขอบคุณครับ น้องแบงค์


โดย: รู้ไว้มีสุข  วันที่: 20 พฤศจิกายน 2555 เวลา:22:09:09 น.

ลบ comment
ผ่านไปประมาณ 2-3 อาทิตย์แล้วค่ะ ที่รักษากรดไหลย้อนมา ปฏิบัติตามที่คุณกิ๊กแนะนำ เข้าใจว่าตัวเองหายแล้วเพราะ ไม่มีอาการท้องอืด ไม่จุกที่คอ ไม่แน่นตอนทานข้าวอื่มใหม่ๆ แล้ว แต่เมื่อวานทานกระเพาะปลาไปค่ะ แล้วก็ปรุ่งด้วยน้ำตาล พริกป่น น้ำส้มสายชู (นิดเดียวจริงๆ นะคะไม่ได้โกหก) 1 ถ้วย และตามด้วยกล้วยน้ำว้าตากที่ซื้อมา 3 ชิ้น เท่านั้นแหละค่ะ ท้องอีดทั้งวัน ตกเย็นมานอนแทบไม่ได้เลยเพราะจุกที่คอ และท้องป่องและแน่นมากด้วย พอวันนี้ก็กลับมาทานข้าวต้ม ปลานึ่ง และผักต้มเหมือนเดิมค่ะ หายยากเหมือนกันนะคะ สงสัยคงต้องทานอาหารอ่อนๆ อย่างงี้นานอีกหลายเดือนเลย เผลอๆ คงเป็นปีเลยมั้ง


โดย: ปู IP: 171.96.13.150 วันที่: 3 ธันวาคม 2555 เวลา:13:52:55 น.

ลบ comment
ตอบคุณ ปู
- โรคนี้ไม่ใช่หายง่ายๆแน่นอน ต้องสู้ ต้องอดทนอย่างยิ่งยวด รักษาตัวเอง ดูแลตนเองเหมือนไข่ในหิน เนื่องจากระบบย่อยอาหารเริ่มดีขึ้น ต้องพักฟื้น คือ ทานอาหารอ่อน ต่อไปอีกจนร่างกายกลับมาเหมือนเดิม
- วิธีบรรเทา ทานขมิ้นชัน เพื่อสมานแผล และ ช่วยย่อย
- อีกอย่าง หวาน เผ็ด เปรี้ยว ครบรสโรคกรดไหลย้อนเชียวครับ


โดย: รู้ไว้มีสุข  วันที่: 6 ธันวาคม 2555 เวลา:21:10:39 น.

ลบ comment
ขอบคุณค่ะคุณกิ๊ก รบกวนสอบถามอีกเรื่องค่ะ ที่คุณกิ๊กบอกว่า "ปัจจุบัน ผมทานอาหารแสลงเหล่านี้น้อยมาก มื้อเย็น ทานแต่สลัดผลไม้+ผัก หรือไม่ก็สุกี้ ราดหน้า หรือไม่ก็ข้าว+น้ำพริก+ผักต้ม หรือกระเพาะปลา ส่วนมื้อเช้าและกลางวัน ทานปกติสลับสับเปลี่ยนกันไป"
- สลัดผลไม้อะไรบ้างผลไม้ต้องห้ามรึเปล่าคะ
- น้ำสลัดแบบไหนคะ
- สุกี้ กระเพาะปลา ราดหน้า ปรุงรสหรือไม่คะ
- น้ำพริกใส่พริกรึเปล่าคะ หรือว่าน้ำพริกของเด็ก
- สุดท้าย ทุกวันนี้ตอนเย็นก็ทานผักสดได้ใช่หรือไม่คะ

รบกวนแค่นี้คะ ขอบคุณอีกครั้งค่ะ


โดย: ปู IP: 171.7.140.140 วันที่: 12 ธันวาคม 2555 เวลา:14:27:52 น.

ลบ comment
ตอนนี้ผมไม่มีอาการโรคกรดไหลย้อน ทานอาหารได้ปกติแล้ว แต่ไม่ทานอาหารแสลงในปริมาณมาก เช่น ไอศครีม น้ำหวาน ขนมบัง กาแฟ ฯลฯ เพราะกลัวกลับมาเป็นอีก

- ผมเป็นคนท้องอ่อน ไม่เคยปรุงรสใดๆเลยมาตั้งแต่เรียนจบมหาวิทยาลัย
- ปัจจุบันตอนเย็นผมทานผักสดได้แล้ว โดยไม่มีอาการท้องอืดเลย (ช่วงเป็นโรค ผมทานสลัดผักสด ท้องอืด ท้องป่องทันที) ปกติก็ทานสลัดผักผลไม้สด 2 ถุง ราดน้ำสลัดฟักทอง+เสาวรส 1 ถ้วย และเนื่องจากเป็นคนท้องอ่อน น้ำสลัดซอสญี่ปุ่นงาดำ เปรี้ยวเกิน ผมท้องเสียทุกครั้งที่ทาน
- เป็นคนไม่ทานกาแฟ ชา ฯลฯ ดื่มแล้วนอนไม่หลับทั้งคืน

** เน้นผักต้ม ออกกำลังกาย ไม่เครียด ** นะครับ

ถ้าอาการเริ่มดีขึ้น อย่าเพิ่งทานผักสดในมื้อเย็น ควรทานผักสดผลไม้สดในมื้อเช้า พร้อมเนื้อสัตว์ เพราะมื้อเช้า น้ำย่อยเรามีเยอะกว่าในตอนเย็น
- สุกี้ บางร้านทำสุกี้เผ็ดมาก แถมใช้น้ำส้มสายชูเทียมในการผัด ควรเลือกร้านทานด้วยครับ


โดย: รู้ไว้มีสุข  วันที่: 12 ธันวาคม 2555 เวลา:20:12:39 น.

ลบ comment
ผมเป็นกดไหลย้อนมาได้ 2 เดือนแล้วครับ ทุกวันนี้อาการดีขึ้น เนื่องจากทำตามที่คุณ รู้ไว้มีสุข เล่าประสบการณ์ไว้ ทุกวันนี้ผมดีขึ้นกว่าเมื่อก่อนเยอะ ไม่มีอาการแสบที่หน้าอกแล้ว แผลในคอก็หายไปแล้ว แต่ผมจะมีอาการจุกเฉพาะตอนเย็น และมีท้องอืดช่วงบ่ายไปถึงตอนนอนเลย ไม่รู้ว่าเพราะอะไร ผมอยากรบกวน คุณรู้ไว้มีสุข พิจารณาให้ผมหน่อยครับว่าแต่ละวันที่ผมกินอาหารเข้าไปมันถูกหรือผิด
เช้า ผมทานข้าวต้ม+ผัดผักใสเนื้อหมู(บางครั้งก็เนื้อไก่)+ขมิ้นสด (ผัดผักผมทำเองใส่แค่น้ำมันพืช+น้ำตาล+ซีอิ๊วขาว รสชาติจืดกว่าปกติที่เคยทานครับ) ประมาณ 10.00 -11.00 น.ผมทานกล้วย 1 ลูก

เที่ยง ผมทานข้าวต้ม+ผัดวุ้นเส้นใส่ไขหรือไม่ก็ต้มจับฉ่ายหรือไม่ก็ปลากระป๋องครับ ประมาณบ่าย 2-3 โมงผมจะทานมะละกอสุข+ชมพู่+แคนตาลูป อย่างนิดหน่อยครับ

เย็น ผมทานข้าวเย็นประมาณ 18.30-17.30 ทุกวันโดยจะทานข้าวต้ม+ปลานึ่ง+ผักต้มเหมือนคุณรู้ไว้มีสุขทานเช่นกันครับแล้วปิดท้ายด้วยมะละกอสุข+ชมพู่อย่างละนิดครับ

ผมนอนตอน 4 ทุ่มทุกวันครับเพราะถ้าผมนอนดึกกว่านั้นผมหิ้วมากแค่ 3 ทุ่มผมก็เริ่มหิวอีกแล้วอยากจะกินกล้วยแต่ก็ไม่กล้ากินครับ ไม่ทราบว่าผมทานถูกวิธีรึเปล่าครับ ทำไมผมยังมีอาการท้องอืดและจุกในบางครั้งอยู่

ตอบผมด้วยนะครับ ขอบคุณล่วงหน้าครับ


โดย: บอย IP: 171.96.14.47 วันที่: 17 ธันวาคม 2555 เวลา:15:05:22 น.

ลบ comment
ตอบ คุณบอย
- มีอาการจุกเฉพาะตอนเย็น และมีท้องอืดช่วงบ่ายไปถึงตอนนอนเลย
-- มื้อเช้าร่างกายจะย่อยอาหารได้ดีกว่ามืออื่นๆ แนะนำให้ งดน้ำตาลและผลไม้ที่ให้น้ำตาล เพราะน้ำตาลทำให้ท้องอืด ถ้าต้องการวิตามินในผลไม้ มะละกอสุก+แคนตาลูป ฯลฯ ให้ทานในมื้อเช้า หากยังท้องอืด ให้ลดปริมาณลง ควรทานไม่เกินอย่างละ 2 คำ

- หากท้องอืด ให้ทานขมิ้นชันแคปซูลดีกว่า

โดย: รู้ไว้มีสุข  วันที่: 17 ธันวาคม 2555 เวลา:22:17:18 น.

ลบ comment
กินข้าวต้ม กับ หมูหยอง กับผักต้มได้ไหมค่ะ

เป็นกรดไหลย้อนมา สี่เดือนแล้วค่ะ อาการดีๆทรุดๆ สลับกันไป ทรามมากค่ะ กินอะไรก็ไม่ได้


โดย: นัท IP: 123.126.50.95 วันที่: 11 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา:13:14:09 น.

ลบ comment
ได้ครับ


โดย: รู้ไว้มีสุข  วันที่: 12 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา:14:43:22 น.

ลบ comment
ขอถามเพิ่มนะค่ะ ว่าตอนนี้คุณกิ๊กยังมีอาการกรดไหลย้อนอยู่ไหมค่ะ

โรคนี้ถ้าหายจะหายซะกี่เปอร์เซ็นต์ค่ะ ปกติเป็นคนระวังเรื่องกินแล้วนะค่ะนี่

ไม่กินของเผ็ด เปรี้ยว ไม่ดื่นน้ำอัดลม เบียร์ กาแฟ แต่มาเป็นโรคนี่เพราะว่า เครียจเรื่องเรียน เสียใจมากเลย กลัวหายไม่สนิท เพราะเป็นคนไม่กินขนมถุงสำเร็จรูป จะชอบกินขนมไทย เค้ก คุ้กกี้ ไอศรีม กลัวจะกลับมากินอีกไม่ได้อะค่ะ


โดย: นัท IP: 123.126.50.87 วันที่: 18 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา:11:20:47 น.

ลบ comment
มีวิธีเดียว
คือ ออกกำลังกาย ให้ไม่เครียด เพราะ ถ้าไม่เครียด ก็คือ หาย......เกือบสนิท


โดย: รู้ไว้มีสุข  วันที่: 19 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา:6:22:25 น.

ลบ comment
ขอบคุณมากค่ะ และขอบคุณข้อมูลต่างจากเว็ปนี่

สู้ตายค่ะ จะพยายามไม่เครียจ

(จะพยายาม เพราะชอบเครียจโดยไม่รู้ตั)


โดย: นัท IP: 122.193.143.39 วันที่: 19 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา:7:25:36 น.

ลบ comment
ข้าวโพดต้ม ทั้งข้าวโพดขาวกับเหลือง กินได้ไหมค่ะ

แล้วก็กะทิผงละค่ะ ย่อยยากไหม ข้อมูลบางแหล่งบอกว่าย่อยยาก บางแหล่งบอกว่ามันจะผ่านกระเพาเข้าลำไส้ ตอนนี้เลยงงว่าสรุปกินได้ไหมค่ะ

รบกวนด้วยค่ะ ขอบคุณมากนะค่ะ


โดย: Nut IP: 122.193.143.39 วันที่: 3 มีนาคม 2556 เวลา:18:29:38 น.

ลบ comment
เรื่องกะทิ แล้วแต่คนครับ แนะนำให้ทานแบบน้ำขณะร้อน


โดย: รู้ไว้มีสุข  วันที่: 5 มีนาคม 2556 เวลา:23:45:03 น.

ลบ comment
ติดตามอ่านมาตลอด ตอนนี้ก็พยายามทำตาม

ผมมีข้อสงสัย ตอนเป็นหนัก ช่วงเบื่ออาหาร มีอาการอ่อนเพลีย
บวกกับสมองไม่ค่อยโปร่งไหมครับ


โดย: TUK IP: 118.172.129.82 วันที่: 16 มีนาคม 2556 เวลา:14:57:13 น.

ลบ comment
สำหรับผม มีอาการ อยากกินน้ำตาล ของแสลง ไม่ได้กินเครียด

อาการอ่อนเพลียเกิดจากอาหารไม่ย่อย ร่างกายเลยดูดซึมไปไม่ได้มาก


โดย: รู้ไว้มีสุข  วันที่: 18 มีนาคม 2556 เวลา:14:51:43 น.

ลบ comment
เหมือนกันเป๊ะ มีแต่ทรงกับทรุด



เราไม่มีปัญหากับผักสดเลย แต่คือต้องเลือกกินแต่ผักสีเขียวเข้ม ถ้ากินพวกกระหล่ำ ผักสีอ่อนแล้วชอบมีปัญหา ไม่ว่า สุกหรือดิบ บางทีต้มค้างคืนแล้วกิน ก็มีปัญหานิดหน่อย

ตอนนี้มีปัญญาเรื่องขับถ่ายมาก ทั้งที่กิน แต่ สลัด ผักต้ม ผลไม้ ขับถ่ายวันเว้นวัน นี่มีปัญหามั้ยคะ


โดย: เราเอง IP: 27.33.26.21 วันที่: 30 มีนาคม 2556 เวลา:14:49:54 น.

ลบ comment
น่าจะลองทานผักต้มสักสัปดาห์หนึ่งครับ หากอาการดีขึ้นก็ทานต่อไป


โดย: รู้ไว้มีสุข  วันที่: 1 เมษายน 2556 เวลา:8:01:58 น.

ลบ comment
ทานผักต้มแล้วอาการแย่ลงค่ะ ทานบวบต้ม กับผักกาดขาวมาสองวันแล้วอาการแย่ลงมาก หรือไม่ทราบเป็นเพราะปลาทูรึเปล่า เราแกะปลาทูกินด้วย ประมาณ 1/4 ตัว แล้วก็กินข้าวน้อยมากๆ
อาการทรุดลงมา เจ็บปวดหน้าอกหนักขึ้น ปวดแสบปวดร้อนในคอมาก
บางทีปวดเสียดตรงลื้นปี่ มาก แทบทนไม่ไหว
จนต้องเพิ่มยา จนตอนนี้หมอเปลี่ยนยา Ranidine 300mg เป็นยา Somac 40mg แรงขึ้นแล้วค่ะ
ตอนนี้เลยทานได้แต่ สลัด สลัด สลัด ทุกมื้อเลย แต่ก่อนทานสลัดมื้อเย็น ไม่เป็นอะไร แต่ตอนนี้ทาแล้วก็ยังแสบร้อนตรงคอ

ทานขมิ้นชันก่อนอาหารทุกมื้อ แล้วก็ก่อนนอน ไม่งั้นปวดท้องมาก นอนไม่หลับ

บทความดีมากๆค่ะ เข้ามาอ่านทุกวัน เวลาท้อแท้ใจ หมดหวังหมดกำลังใจ ก็จะเข้ามาอ่าน บางทีก็น้อยใจ ทำไมไม่หายโรคสักทีน้ำหนักลด แถมตกงานอีก (เพราะงานที่ทำต้องชิมกาแฟ พักทานข้าวไม่เป็นเวลา)
เราอยู่ต่างประเทศด้วย หยูกยาอะไรหากินยาก ต้องหมอสั่งเท่านั้นซื้อกินเองไม่ได้ คุยรู้เรื่องบางไม่รู้เรื่องบ้าง เรียนก็หนัก เวลาอ่านหนังสือ แล้วรู้สึกแสบร้อนตรงคอ อ่านหนังสือไม่รู้เรื่องเลย รู้สึกแย่ ไม่รู้จะเรียนจบรึเปล่า
ได้เวบนี้ยังดีหน่อยที่ยังมีตัวอย่าง คนเป็นโรคนี้แล้วหายให้ได้อ่านเป็นกำลังใจบ้างก็ยังดีค่ะ ขอบคุณที่เขียนอะไรดีๆอย่างนี้นะคะ


โดย: เราเอง IP: 27.33.26.21 วันที่: 4 เมษายน 2556 เวลา:10:52:44 น.

ลบ comment
แนะนำให้ออกกำลังกาย วิ่ง ว่ายน้ำ และ เคี้ยวอาหารให้ละเอียด
ขมิ้นชัน กับ น้ำกะเพรา ลองทานหรือยังครับ
ลองคลิกอ่านที่นี่ครับ ==> http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=alwaysforever&month=03-2012&date=20&group=3&gblog=14


โดย: รู้ไว้มีสุข  วันที่: 5 เมษายน 2556 เวลา:5:42:15 น.

ลบ comment
วันนี้ลองไปวิ่งมาค่ะ ก่อนอาหารเย็น
ปกติเป้นคนวิ่งอึดมากค่ะ 5-6โล ไม่หยุด
แต่วันนี้ไม่รอดค่ะ ร้อนหน้าอก เหมือนจะระเบิด ทั้งที่วอร์มอัพ 20 นาที
เกือนจะให้คนแถวนั้นเรียกรถพยาบาล หายใจไม่ทัน
ลองหายใจช้าๆค่อยยังชั่วแล้ว ค่อยๆเดินกลับบ้านค่ะ
ตอนนี้เจ็บตรงระหว่างไหปลาร้า จนจับข้างนอกยังรู้สึกชา
ร้อนไหม้ตรงคอตลอดเวลา แถมเริ่มกลับมาปวดท้องอีกแล้ว

อาจจะต้องเปลี่ยนเป็นเดินเร็วไปก่อน

คุมอาหารแล้ว กินตรงเวลาแล้ว กินขมิ้นชันแล้ว น้ำขิง ทานยาหมอหลายขนานแล้ว ไม่กินจุกจิกแล้ว นอนตรงเวลา ทำไมยังแย่ลงเรื่อยๆ เริ่มสงสัย มะเร็งกระเพราะ/ลำไส้แล้วอะค่ะ
เอาหล่ะเดี๋ยวจะลองน้ำกระเพรา ที่นี่กระเพราแดงหายากมาก
ลองให้ถึงที่สุดก่อน :)


โดย: เราเอง IP: 27.33.26.21 วันที่: 5 เมษายน 2556 เวลา:15:53:44 น.

ลบ comment
แนะนำให้เดิน และออกกำลังกายมากๆ ที่สำคัญความเครียดเป็นสาเหตุให้กรดไหลย้อนไม่หายสนิท


โดย: รู้ไว้มีสุข  วันที่: 10 เมษายน 2556 เวลา:21:09:00 น.

ลบ comment
ขอคำแนะนำ เป็นกรดไหลย้อน กินเนสวีต้าสูตรน้ำตาลน้อย ได้มั๊ยค่ะ


โดย: จันทิมา IP: 124.121.24.71 วันที่: 19 เมษายน 2556 เวลา:22:37:55 น.

ลบ comment
เป็นกรดไหลย้อนมานานมาก กินทั้งยาลดกรดสารพัด ก็ไม่หาย ผลสุดท้ายใช้ธรรมชาติบำบัด กินน้ำหมักเอนไซน์ หลังอาหาร ทุกมื้อ ก่อนนอนกินขมิ้นชันทุกคืน น้ำเอนไซน์ ปรับร่างกายให้เป็นปกติ ไม่มีอาการกรดไหลย้อนอีกเลย กินของชอบได้ตามปกติ เมื่อก่อนกินพิซซ่าไม่ได้เลย เดี๋ยวนี้ 2 ชิ้น สบายๆ


โดย: มาร์กี้ IP: 101.108.113.42 วันที่: 21 เมษายน 2556 เวลา:11:41:22 น.

ลบ comment
ป้าเมื่อ3 ปีที่แล้วมีอาการเสียดท้องข้างขวา ท้องอืด เหมือนมีอะไรติดที่คอ ส่องกล้องดูที่ลำไส้ตอนบนอักเสบเล็กน้อย
ทายยาลดกรด พีวาซิค อยู่ 3 เดือนก็หายปกติ แต่ไม่กี่วันมานี้
อาการกลับมาอีก แต่ไม่เสียดท้องข้างขวา มีแต่อาการท้องอือ
ไม่เรอ ทั้ง ๆ ที่กินยาช่วยย่อยแล้ว จะรู้สึกเหมือนมีอะไรติดที่คอ
มากในตอนเย็นและค่ำ อยากถามคุณรู้ไว้มีสุขว่า ป้าเป็นกรดไหล
ย้อนหรือเปล่า และป้าจะลองปรับเปลี่ยนการกินอาหารที่คุณบอก
ดู ตอนนี้ป้าไม่มีความสุขเลย บางครั้งอึดอัดเหมือนหายใจไม่เต็มปอด ตอนนี้หมอก็ให้ยาลดกรดตัวเดิมและยาช่วยย่อย แต่อาการป้าไม่ดีขึ้นเลย ป้าอายุ 60 ปีจ๊ะ


โดย: ป้ามีน IP: 1.0.173.183 วันที่: 23 พฤษภาคม 2556 เวลา:16:37:51 น.

ลบ comment
ป้าอยากถามว่า ผลไม้จำพวกกล้วยกินได้หรือเปล่า ป้ากินกล้วยเล็บมือนาง หรือไม่ก็กล้วยหอม ในตอนเช้าก่อนกินอาหารไม่งั้นจะไม่ค่อยถ่ายในตอนเช้า หรือบางทีก็ท้องผูกไปเลย ป้าจะรอคำตอบจากคุณนะคะ


โดย: ป้ามีน IP: 1.0.173.183 วันที่: 23 พฤษภาคม 2556 เวลา:16:45:57 น.

ลบ comment
- แนะนำให้คุณป้าไปพบแพทย์ เพื่อตรวจสุขภาพโดยละเอียด เพราะโรคหลายโรคในปัจจุบันนี้ ต้องตรวจด้วยเครื่องมือแพทย์โดยเฉพาะครับ


โดย: รู้ไว้มีสุข  วันที่: 25 พฤษภาคม 2556 เวลา:12:05:20 น.

ลบ comment
เรามีอาการกินอาหารแล้วไม่ค่อยย่อย เหมือนอะไรติดที่คอ
และมีเสมหะใส ๆ ออกมาตลอด ไม่มีกลิ่น เราต้องกินยาขับลม
จึงนะดีขึ้น บางวันถ้ากินอาหารประเภทหมูหรือกุ้ง จะเป็นมาก
ถ้ากินพวกผักเยอะ ๆ ก็เป็นน้อย ไม่ทราบว่าเราเป็นกรดไหลย้อนหรือเปล่า


โดย: อ้อน IP: 1.0.172.167 วันที่: 26 พฤษภาคม 2556 เวลา:19:41:24 น.

ลบ comment
พบแพทย์ หาหมอเลยครับ


โดย: รู้ไว้มีสุข  วันที่: 1 มิถุนายน 2556 เวลา:14:35:36 น.

ลบ comment
สวัสดีครับคุณรู้ไว้มีสุกผมอยากถามว่าช่วงระยะเวลารักษา 3 เดือนที่เป็นอาการเป็นยังไงบ้างครับ


โดย: อาร์ม IP: 202.28.179.5 วันที่: 26 มิถุนายน 2556 เวลา:20:57:02 น.

ลบ comment
ผมจะมีอาการแน่นน่าอกเป็นเหมือนกันไหมครับแล้วพี่รู้ไว้มีสุขกินยาหมอปัจจุบันอะไรบ้างครับ ผมกิน rabeprazole ครับ


โดย: อาร์ม IP: 202.28.179.5 วันที่: 26 มิถุนายน 2556 เวลา:21:00:05 น.

ลบ comment
ตอบ น้องอาร์ม
- หลังจากกินยาแผนปัจจุบัน (ทานยาพื้นๆ ยังไม่ได้ทาน Nexium) แล้วอาการดีขึ้นไม่มาก ก็เน้นทานสมุนไพร ส่วนยาเคมีสังเคราะห์ทานเพียงยาลดกรด แก้ท้องอืด
- อาการเดือนที่ 3 ดีขึ้น ไม่มีอาการจุกที่คอหลังตื่นนอน ท้องแฟ้บ แต่ยังมีอาการอาหารไม่ย่อย ท้องอืดหลังทานอาหารทั้งวัน แต่เมื่อตื่นนอนท้องก็แฟ้บแล้ว


โดย: รู้ไว้มีสุข  วันที่: 26 มิถุนายน 2556 เวลา:23:51:28 น.

ลบ comment
พี่กิ๊กมีอาการแน่นน่าอกไหมครับ แล้วปัจจุบันนี้่พี่ยังมีอาการอะไรบ้างไหมครับ พี่กินขมิ้นชันยี่ห้ออะไรครับผมกินของเจ้าพระยา อภัยภูเบศร์ ผมเป็นมาประมาณ 1 เดือนแล้วตอนนี้อาการดีขึ้นมากแล้วแต่จะมีอาการแน่นน่าอกบ้าง กลืนน้ำลายลำบากบ้างตอนแปรงฟันพี่เป็นแบบนี้บ้างไหม พี่เคยส่องกล้องไหมครับ หมอบอกผมว่าถ้าอาการยังไม่ดีขึ้นจะส่องกล้อง สุดท้ายผมสขอบคุณมากนะครับสำหรับคำตอบ ขอให้พี่มีความสุขมากๆ นะครับ


โดย: อาร์ม IP: 202.28.179.5 วันที่: 27 มิถุนายน 2556 เวลา:11:37:43 น.

ลบ comment
ผมลืมถามอีกอย่างครับ พี่มีอาการง่วงนอนบ่อยไหมครับ


โดย: อาร์ม IP: 202.28.179.5 วันที่: 27 มิถุนายน 2556 เวลา:14:42:51 น.

ลบ comment
แล้วพี่มีอาการผพะอืดพะอม คลื่นไส้ บ้างไหมครับ


โดย: อาร์ม IP: 202.28.179.5 วันที่: 30 มิถุนายน 2556 เวลา:8:58:49 น.

ลบ comment
- ช่วงที่ป่วย มีอาการแน่นหน้าอกปานกลาง ไม่ถึงกับต้องนั่งพัก จุกที่คอปานกลาง แต่ท้องอืดมาก ท้องป่องมาก จึงพยายามเคี้ยวอาหารให้ละเอียด ทานอาหารอ่อนย่อยง่าย ออกกำลังกาย ไม่ทานอาหารแสลงกับตัวเอง

-- ปัจจุบันไม่มีอาการเหลือ แต่จะมีอาการแน่นหน้าอกบ้าง หลังทานบุปเฟ่ ทานเยอะจริงๆ หรือ ทานอาหารแสลง เช่น ไอศครีมหวานๆ สัก 1 ชุด กาแฟรสเข้ม 1 แก้วใหญ่ น้ำผลไม้หวานๆ เป็นต้น แต่ถ้าหยุดทาน อาการก็จะหายไปภายใน 2-3 วัน พี่พยายามลด เพราะรู้ว่า มันไม่ดีกับสุขภาพของตัวพี่เอง ยิ่งอายุมากขึ้นก็ควรจะไม่ทานอาหารที่ทำร้ายตัวเองเช่นนี้ตลอดไป ดังนั้นตอนนี้พี่ไม่ทานขนมบัง ทั้งหวาน ทั้งทำให้ท้องอืด ไม่ย่อย รวมทั้งขนมจีน ข้าวเหนียวด้วย

- ไม่ได้ส่องกล้อง เพราะสาเหตุอาการป่วยของพี่เกิดจากความเครียด โดยที่เราไม่รู้ตัวว่า เราเครียด ครับ
- มีอาการเหนื่อยๆบ้าง เพราะอาหารไม่ย่อย ร่างกายดูดซึมไม่ได้ ทำให้อ่อนเพลีย อยากพัก --> ง่วง
- อาการพะอืดพะอม คลื่นไส้ มีแน่นอน โดยเฉพาะหลังทานของหวาน ขนมบัง กาแฟ ฯลฯ

โดย: รู้ไว้มีสุข  วันที่: 30 มิถุนายน 2556 เวลา:11:06:41 น.


ลบ comment
เป็นเรื่องที่มีประโยชน์มาก สามีเป็นโรคนี้ค่ะ บางคืนต้องนอนเอียง ๆ ทรมานมาก ขอแอดเป็นเพื่อนนะคะ ว่าง ๆ จะเข้ามาอ่านเรื่องอื่น ๆ อีกค่ะ ขอบคุณมากสำหรับข้อมูลดี ๆ นะคะ


โดย: Maeboon  วันที่: 20 มีนาคม 2555 เวลา:15:36:58 น.

ลบ comment
ขอบคุณ สำหรับการแบ่งปัน ประสบการณ์ครับ เป็นเหมือนกันิ กำลังหาวิธี รักษา ด้วยตัวเอง


โดย: สมยศ IP: 171.4.149.96 วันที่: 20 กันยายน 2555 เวลา:21:50:45 น.

ลบ comment
ผมเป็นมา 8 เดือนแล้วครับ ส่องกล้องเป็นกระเพาะอักเสบรุนแรง ทำไปทำมาเริ่มจุกแน่น แสบคอนี่หละครับ ภัยคุกคามชีวิต GERD เล่นงาน.... นอนดึก เครียด แต่อาหารก่อนนอนไม่กิน ยังเป็นได้อีก... พกยาเป็นคนแก่เลยครับ ... เห็นเค้าว่าพวกน้ำเอนไซม์ช่วยได้ ผมเคยลองดมกลิ่นเหมือนถังขยะเปียกไม่กล้ากิน.....ถ้ารักษาแบบหมอฝรั่งก็ต้องผ่าตัดกระชับหูรูด -*- ... สมัยปู่ย่า พระอาทิตย์ตก นอนแล้ว ไก่ขันออกไปทำนาทำไร่ ออกกำลังกาย กินอาหารธรรมชาติ ... สมัยผม พระอาทิตย์ตกพระอาทิตย์ขึ้น มีค่าเท่ากัน ทำงานเครียด อยู่หน้าคอม ไม่ได้ออกกำลัง อาหารสารเคมีเพียบ ..... เดี๋ยวจะลองเอาสมุนไพรรแบบของท่านไปลองใช้ดู *-*


โดย: jet IP: 49.49.198.81 วันที่: 24 ตุลาคม 2555 เวลา:15:48:12 น.

ลบ comment
ตอบ คุณ jet
- น้ำเอนไซม์ หรือ ชีส ช่วยได้ แต่อย่าหลงโฆษณาซื้อน้ำเอนไซม์ ราคาสูงเกินความเป็นธรรม


โดย: รู้ไว้มีสุข  วันที่: 26 ตุลาคม 2555 เวลา:15:25:46 น.

ลบ comment
เป็นมาหลายปี...นานมาก...ทำงานไม่ได้เลย มีอาการเวียนหัว ท้องแน่นมีแก็สเยอะ มีอาการท้องอืดด้วย แต่ที่แย่คือเวียนหัว ถ้าแก็สมากก็จะท้องป๋อง...แย่สุด ๆ บางครั้งก็เจ็บแสบไปตามเส้นเอ็น ตรงช่วงคอ ไหล่ ก็ตึง ๆ รักษากินยาจนเบื่อ ไม่อยากกินแล้ว ตอนนี้จะลองกินขมิ้นดู เมื่อก่อนไปหาหมอจนไม่อยากไปหมอนัดทุกอาทิตย์์ บอกว่าที่่จริงไม่ต้องทานยาก็ได้ เพียงแค่ปรับพฤติกรรมการกิน เมื่อ6ปีก่อนเป็นมาก ช่วงปีแรกเข้าโรงพยาบาล 6 ครั้งให้น้ำเกลือ 10 กว่าขวดรวมทั้ง 6 นะไม่หายเลย มีอาการจุกที่คอ มีเสลดเยอะ เวียนหัว ตาลาย สุดท้ายพยายามดูแลการกิน แต่ทำยากนะเพราะจะให้ตรงเวลาทุกมื้อทุกวันมันยากมากสำหรับสังคมสมัยนี้ ตอนนี้ไม่ไ้ด้ทำงานเพราะอาการเวียนหัว ท้อมาก...กำลังพยายามรวบรวมกำลังใจสู้ต่อไป...


โดย: ขวัญ IP: 180.183.88.222 วันที่: 2 ธันวาคม 2555 เวลา:15:37:16 น.

ลบ comment
เป็นกรดไหลย้อนมานานแล้วตอนนี้ใช้หลายวิธีอาการดีขึ้นใครที่เป็นทดลองดูได้. อย่างแรกขมิ้นชัน.....กล้วยดิบตากแห้งปั่นให้เป็นผงแล้วชงกินเช้าเย็น......ใบกระเพราชง......ขิงสดทุบต้มกินน้ำ.......ลูกมะตูมแห้งต้มกินน้ำ......ตะไคร้สดทุบต้มกินน้ำ.....ลูกยอ.....ใบย่านาง ....กินวันละอย่างหรือสองก็ได้สับเปลี่ยนกันไป......และอาหารเสริม


โดย: เจเจ IP: 118.172.218.5 วันที่: 8 มีนาคม 2556 เวลา:19:28:59 น.

ลบ comment
ขอบคุณครับ คุณเจเจ


โดย: รู้ไว้มีสุข  วันที่: 9 มีนาคม 2556 เวลา:15:23:49 น.

ลบ comment
เป็นโรคกรดไหลย้อนมาเกือบปีเป็นๆหายแสบกลางอกท้องอืดท้องผูกอาเจียนพออาเจียนจะทานอาหารอะไรไม่ได้เลยน้ำหนักลดเฉลี่ยวันละกิโลทรมารมาก


โดย: เปิ้ล(สุราษฏร์) IP: 118.173.223.190 วันที่: 25 มิถุนายน 2556 เวลา:15:27:30 น.

ลบ comment
เป็นรอบ 2 ค่ะ รอบแรก แค่จุกคอหอย และเรอเล็กๆ หายไปปีกว่า มารอบนี้ รู้สึกจุกคอ แน่นท้อง ท้องอืด เจ็บลิ้นปี่ แต่ไม่แสบร้อนกลางอก ไม่ทราบว่าใช่อาการกรดไหลย้อนหรือเปล่า ไปหาหมอที่ รพ. หมอให้ยาแก้โรคกระเพาะ เคลือบกระเพาะ ลดการหลั่งกรด กินยามาสองวัน อาการดีขึ้น อยากรบกวนถามว่า ขณะนี้กินยา รพ. สามารถกินขมิ้นชัน ควบคู่กันด้วยได้หรือไม่คะ


โดย: จอย IP: 125.26.1.255 วันที่: 15 พฤศจิกายน 2556 เวลา:13:05:51 น.

ลบ comment
ควรออกกำลังกายด้วยครับ วิ่งเบาๆ หรือ เดิน แกว่งแขน

ยาที่คุณบอกมา เป็นยาพื้นฐาน (ไม่ใช่ยาเฉพาะ) สามารถกินขมิ้นชัน ควบคู่กันด้วยได้ครับ


โดย: รู้ไว้มีสุข  วันที่: 19 พฤศจิกายน 2556 เวลา:22:28:21 น.

ลบ comment
รบกวนอีกนิดนะคะ ขอย้อนไปตอนที่ไปหาหมอที่ รพ. หมอถามอาการ แล้วบอกว่าคุณเป็นโรคกระเพาะ แค่กดๆ ที่ลิ้นปี่ ไม่ได้ตรวจอะไรเลย แล้วที่คุณกิ๊กบอกว่ายาที่หมอให้มาไม่ใช่ยาเฉพาะ แล้วมันจะหายหรอคะ จำเป็นมั้ยที่จะต้องทานยาของ รพ. ที่เป็นยาเฉพาะ จะทำงัยดีคะ แต่พอมาอ่านในบล๊อคคุณกิ๊กรู้สึกได้ความรู้ในหลายๆ ด้าน ขอขอบคุณเป็นอย่างสูงด้วยค่ะ ทุกวันนี้ก้อได้ปรับพฤติกรรมการกินอาหารไปมาก จากที่เคยทานกาแฟทุกวัน ตอนนี้งดกาแฟมาได้สัปดาห์ที่3แล้ว งดขนม ของมัน ของทอด แล้วทานขมิ้นชัน 4 เวลา ตามที่คุณกิ๊กแนะนำ รู้สึกดีขึ้นมากจริงๆ สัปดาห์ที่ 3 นี่แทบจะไม่แน่นท้อง ไม่จุกคอแล้ว ขาดอย่างเดียว ไม่ค่อยได้ออกกำลังกาย จะพยายามทำตามคำแนะนำคุณกิ๊กค่ะ และ ขอเป็นกำลังใจให้ท่านที่เป็นโรคนี้นะคะ แค่ปรับพฤติกรรมการกินก้อช่วยไปได้เยอะมากๆๆ แล้วค่ะ


โดย: จอย IP: 125.26.5.176 วันที่: 25 พฤศจิกายน 2556 เวลา:16:23:30 น.

ลบ comment
จากประสบการณ์การพบแพทย์ของผม
- ไปพบหมอครั้งแรก หมอจะซักประวัติ ตรวจเบื้องต้น ถามอาการ และ ให้ยาพื้นฐานมาก่อนครับ
- ถ้าอาการยังไม่ดีขึ้น จะได้รับการตรวจร่างกายโดยละเอียด เช่น ส่องกล้อง แล้วถ้าพบว่า เป็นโรคกรดไหลย้อน ก็จะให้ยารักษาเฉพาะโรคกรดไหลย้อน เช่น Nexium ครับ


โดย: รู้ไว้มีสุข  วันที่: 25 พฤศจิกายน 2556 เวลา:19:31:38 น.

ลบ comment
พี่คะ วันนี้หนูไปหาหมอมา หนูเป็นคนไม่กินผัก ชอบกินเยอะ กินจุกจิก หนูได้อ่านบทความเรื่อง อาหารแสลง แต่ละอย่างคือสิ่งที่หนูชอบกินทั้งนั้นเลยคะ

อาการของหนู ชอบปวดท้อง แน่นท้อง ท้องอืด ท้องเฟ้อ พุงป่อง มานานหลายปี แต่เป็นไม่บ่อย นานๆทีเป็นคะ แต่พักหลังๆ ก็เป็นปีอยู่คะ เป็นบ่อยมาก แล้วเริ่มบ่อยขึ้นเรื่อยๆ อาจจะไม่ได้ปวดท้องทุกวัน แต่ปวดท้องเกือบทุกอาทิดย์ ชอบปวดหลังมื้อเที่ยง จะหายปวดก็ตอนเย็นๆ ค่ำเลยคะ แล้วหลังๆ ไม่กี่ครั้ง เริ่มอาการพะอืดพะอม อยากอาเจียน อยากเรอ แต่ไม่ออกร่วมด้วยคะ

หมอบอกว่ากรดในท้องหนูเยอะ ให้เปลี่ยนพฤติกรรมการกิน อุนตราซาว์แล้ว หมอบอกว่าไม่มีอะไร คะ

หมอให้ยามา 1 แผง nexium กินก่อนอาหารสัก 1 ชม ถ้ายาหมด หนูควรซื้อเองไม่คะ มันมีแค่ 7 เม็ดเองคะ แล้วเราสามารถกินขมิ้นชันอัดเม็ดควบคู่ไปได้ด้วยไม่คะ

ขอบคุณพี่ที่เขียนบทความเหล่านี้ขึ้นมาคะ


โดย: ฮั้ว IP: 171.100.217.228 วันที่: 28 ธันวาคม 2556 เวลา:22:33:04 น.

ลบ comment
- พบหมอตามที่นัด ทานยาตามควบคู่กับขมิ้นชันได้เลยครับ
- น้องต้องออกกำลังกาย เดิน วิ่ง ว่ายน้ำ และ ทานผักให้เป็นนิสัย อาการก็จะดีขึ้น เพื่อสุขภาพของน้องเอง
- โรคนี้หายช้า ใจเย็นๆ ไม่เครียดนะครับ


โดย: รู้ไว้มีสุข  วันที่: 30 ธันวาคม 2556 เวลา:11:26:37 น.

ลบ comment
เพิ่งเป็นอาการหนักเมื่อวันที่ 25 ธันวาคม 56 แน่นหน้าอก หายใจไม่ออก คอแห้งกลืนน้ำลายลำบาก หาหมอฉีดยาให้ 1 เข็ม สังเกตุอาการก็ยังไม่ดีขึ้น หมอเลยให้กิน mixt.carminative ,dioxye ก็ดีขึ้นแต่ยังไม่หาย ยังคงแน่นหายใจไม่ออก หมอเลยให้ยาพื้นฐานกรดไหลย้อนมากิน รู้สึกกลัวมากเพราะจะหายใจไม่ออก พอมาอ่านข้อความของคุณก็พยายามทำตามเพื่อสุขภาพของตนเองและอยากหายไวๆ ขอบคุณข้อความที่เป็นประโยชน์นะคะ สู้กันต่อไป


โดย: ปีใหม่ IP: 115.67.35.244 วันที่: 2 มกราคม 2557 เวลา:8:22:51 น.

ลบ comment
สวัสดีครับคุณกิ๊ก ผมเป็นกรดไหลย้อนมาได้ประมาณ ปีกว่าๆแล้วครับไม่ยอมหายซักที พอดีขึ้นเดี๋ยวก็กลับมาเป็นอีก สงสัยเพราะผมชอบนอนดึกและเครียด และงานที่เกี่ยวข้องต้องเดินทางต่างประเทศ เกือบทุกเดือน เวลานอน เวลากิน ต้องเปลี่ยนตลอด ทำให้ทานข้าวและนอนไม่เป็นเวลา เมื่อคืนเป็นหนักที่สุดเท่าที่เคยเป็นมาครับ คือหายใจแทบไม่ออก ชาไปทั้งตัวมือเย็น แสบหน้าอก เวียนหัว อยากจะอาเจียน

อยากถามว่าผมควร ไปหาหมออีกหรือป่าวครับ ไปหาหมอบ่อยมากๆ ก็ยังไม่ดีขี้นครับ ถ้าไม่ต้องไปหาควรทำอย่างไรให้มีแรง


รบกวนถามอีกหน่อยครับ น้ำมันมะพร้าวธรรมชาติสกัดเย็น (Virgin Coconut oil)ซื้อที่ไหนครับ แล้วซื้อมาแล้วต้องนำไปผสมหรือทำอะไรก่อนรับประทานหรือป่าวครับ เพราะผมท้องผูกมากๆ ถ่ายยากมากครับ ควรดื่มหรือป่าวครับ


โดย: อยากมีสุข IP: 171.100.69.52 วันที่: 8 มกราคม 2557 เวลา:10:24:44 น.

ลบ comment
น้ำมันมะพร้าวธรรมชาติสกัดเย็น (Virgin Coconut oil)ซื้อที่ไหน
- ซื้อที่ร้านสุขภาพทั่วไป ที่สันติอโศก หรือ ร้านสุขภาพแถวอนุเสาวรีย์ฝั่งโรงพยาบาลพระมงกุฏก็มีขาย (ลองถามคนแถวนั้นดู)
- ลองทานตามคำแนะนำข้างบนครับ

ควรพบแพทย์ เพราะหมอมีเครื่องมือในการตรวจรักษาโดยละเอียดครับ

ถ้าไม่ต้องไปหาควรทำอย่างไรให้มีแรง
- แนะนำให้ออกกำลังกาย และ ทำจิตใจให้สบาย


โดย: รู้ไว้มีสุข  วันที่: 11 มกราคม 2557 เวลา:9:01:55 น.

ลบ comment
ขอบคุณคุณ กิ๊กมากครับ ตอนนี้ผม ทำตามคำแนะนำของคุณกิ๊กอยู่ครับ ดีขึ้นอย่างไร จะมาแจ้งให้ทราบอีกทีครับ ไปพบแพทย์มา แพทย์ แนะนำให้ส่องกล้อง แต่ผมยัง งง กับการส่องกล้องว่า ส่องเพื่ออะไร เพื่อให้รู้ว่า เป็นแผลตรงไหน หรือมีอะไรตรงไหนผิดปกติ แล้วตัดออก แค่นั้นเองหรือครับ หรือว่า สามารถรักษาแผลได้เลย ไม่ทราบว่าคุณกิ๊กพอจะทราบบ้างหรือป่าวครับ ว่าการส่องกล้องดีอย่างไร หรือ ไม่ดีอย่างไร ขอบคุณครับ


โดย: อยากมีสุข IP: 115.87.255.99 วันที่: 11 มกราคม 2557 เวลา:18:07:01 น.

ลบ comment
ความเห็นส่วนตัว

แม่ผมท้องอืดเป็นๆหายๆมา 10 ปี อายุมากแล้ว
หมอให้ส่องกล่อง พบว่า ลำไส้บวมแดงนิดหน่อย
หมอให้ยาฆ่าเชื้อโรคมา ทานแล้วอาการดีขึ้น แต่พอหายเครียด จิตใจสบาย ไร้กังวล หายท้องอืดไปหลายวันเลย

ใจจริง ถ้าอาการไม่มาก ยังไม่อยากให้ส่องกล้อง แต่ถ้ามีประวัติญาติเป็นโรคมะเร็ง โรคเกี่ยวกับระบบทางเดินอาหาร โรคหัวใจ ฯลฯ ควรหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการส่องกล้องครับ


โดย: รู้ไว้มีสุข  วันที่: 14 มกราคม 2557 เวลา:1:16:44 น.

ลบ comment
ขอบคุณ คุณกิ๊ก มากครับ ไปส่องกล้องมาแล้วครับ หมอบอกกระเพาะอักเสบ มีรอยถลอก มีเลือดซิบๆ ทำให้ปวดแสบปวดร้อน และมี เชื้อแบททีเรียมาก หมอได้จัดการให้หมดแล้ว และจัดยาฆ่าเชื้อแบททีเรียตอนนี้อาการดีขึ้นมากครับ และได้รับประทานผัก ตามที่คุณกิ๊กเขียนไว้ ได้ผลดีมากๆครับ ขอบคุณมากครับ


โดย: อยากมีสุข IP: 171.100.69.52 วันที่: 16 มกราคม 2557 เวลา:11:04:48 น.

ลบ comment
ยินดีด้วยครับ ดูแลตัวเองจะได้หายไวๆครับ


โดย: รู้ไว้มีสุข  วันที่: 20 มกราคม 2557 เวลา:9:49:59 น.

ลบ comment
เคยส่องกล้องมาแล้วคะ เพราะถ่ายเป็นเลือดเยอะมาก ผลตรวจเจอแผลในกระเพาะเเละลำไส้ หมอใช้เลเซอร์หยุดเลือด ตอนนี้กินยาต่อเนื่องมา 3 เดือนแล้วคะ และปัจจุบันก้อยังมีการนัดพบหมอหลังการรักษาต่อเนื่องอยู่คะ


โดย: โบว์ IP: 110.171.18.222 วันที่: 5 มิถุนายน 2557 เวลา:22:37:02 น.
----------------------------------------------------------
เรื่องราวกรดไหลย้อนไม่ได้จบเพียงเท่านี้



ใครที่ร้อนในบ่อย  ท้องผูกบ่อย  หรือ  กินแล้วนอนบ่อย.......
อ่านตรงนี้ด้วยครับ ==> http://kiktewlek.blogspot.com/2016/03/GERD-KikTewLek.html

No comments:

Post a Comment