ออกกำลังกายเป็นประจำดีจริงๆ แล้วดีอย่างไรล่ะ (Physical exercise)

รู้ไว้มีสุข – ปวดกล้ามเนื้อ

2.2

สุขภาพ เรื่อง การออกกำลังกายดีจริงๆ

          จากประสบการณ์ของผมนะครับ เพื่อนๆควรออกกำลังกายอย่างน้อย สัปดาห์ละ 3 – 4 ครั้ง ครั้งละอย่างต่ำ 30 นาที - 1 ชม.ครับ โดยเน้นออกกำลังกายให้หัวใจเต้น ซึ่งทำให้ผิวกายและผิวหน้าของเราก็จะสดใสขึ้นครับ เพราะร่างกายได้ขับสารพิษออกทางเหงื่อ แถมเราจะไม่แก่ง่าย ไม่เป็นโรคต่างๆ เช่น หวัด เป็นต้น

 

          การออกกำลังกายแบบแอโรบิคมีประโยชน์จริงๆ คือ ทำให้หัวใจและเส้นเลือดแข็งแรง จึงสามารถนำสารอาหารต่างๆเข้าสู่ร่างกายได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกอย่าง เวลาที่เป็นโรคเราจะหายได้ง่ายครับ เช่นเวลาที่ฉีดยาหรือทานยา ยาจะเข้าไปรักษาโรคได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ เพราะหัวใจและเส้นเลือดที่แข็งแรงนำยาไปสู่เซลล์ต่างๆได้อย่างรวดเร็ว

 

          ผมสังเกตตัวเองครับ คือ เวลาที่ผมเป็นไข้หวัด มีน้ำมูกมาก แต่ก่อนผมต้องทานยาลดไข้ ลดน้ำมูก (ที่สามารถหาซื้อได้ตามท้องตลาด) ถึง 2 เม็ด แต่ปัจจุบันนี้ผมทานเพียงครั้งละ 1 เม็ดก็บรรเทาอาการน้ำมูกไหลได้แล้วครับ 

          เพื่อนๆครับ ข้อมูลเกี่ยวกับสุขภาพหาอ่านได้บนเว็บไซต์ครับ ระหว่างเงินกับสุขภาพ ผมเลือกสุขภาพครับ เพราะเงินบางทีซื้อโรคให้หายไม่ได้นะครับ

ป.ล. อย่าลืมนะครับว่า สิ่งที่สำคัญที่สุดที่เราต้องทำทุกครั้ง ก่อนออกกำลังกาย คือ ต้อง Warm Up ทุกครั้งนะครับ (หมอกระดูกแนะนำไว้เลยครับ) ถ้าเราไม่ Warm Up แทนที่การออกกำลังกายจะให้ผลดีกับเรา แต่มันกลับส่งผลเสียให้กับร่างกายของเราครับ

+++++++++++++++++++++++++++++++++++ 

ผิวสุขภาพดี ด้วยการออกกำลังกาย

          ควรออกกำลังกายแบบแอโรบิคอย่างสม่ำเสมอ อย่างต่ำสัปดาห์ละ 3 ครั้ง ครั้งละ 30 นาที ถึง 1 ช.ม. เพื่อให้หลอดเลือดแตกแขนง มีความยืดหยุ่นและแข็งแรง ทำให้เลือดไหลเวียนได้ดีขึ้นเป็นเหตุให้เลือดนำพาสารอาหารที่รับประทานเข้าไป สู่ผิวหน้าของเราได้อย่างมีประสิทธิภาพ แถมด้วยระบบต่างๆในร่างกาย เช่น ระบบขับถ่ายของเสีย (เหงื่อ) ระบบหายใจ (หัวใจและปอด) ก็ทำงานได้ดีขึ้นด้วย 

          ลองสังเกตผิวหน้าของนักกีฬาดูซิครับว่า ผิวหน้าของเขาจะดูผ่องใส ผิวพรรณก็ดูเปล่งปลั่งไปด้วย และยิ่งออกกำลังกายมากเท่าไหร่ก็รู้สึกเหมือนเราได้พลังกลับคืนมาเท่านั้น ช่วยให้เรารู้สึกสดชื่น สมองปลอดโปร่ง เพราะว่าเกิดจากการออกกำลังกาย ทำให้เส้นเลือดแตกแขนงมากขึ้น จึงทำให้เซลล์ได้รับสารอาหารทั่วถึง เพราะ กีฬา กีฬา เป็น ยาวิเศษ

++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ทำไมต้องเล่นโยคะ หรือต้องยืดกล้ามเนื้อ ยืดเส้น

การทำงานใน Office ซึ่งไม่มีการเคลื่อนไหวร่างกาย อาจเป็นสาเหตุทำให้เกิดโรคปลายประสาทอักเสบ โรคพังผืดเกาะตามเส้นเอ็น-กล้ามเนื้อ-เส้นประสาท ปลายประสาทมือ ปลายนิ้ว ทำให้เกิดอาการชา เจ็บปวด กล้ามเนื้อ-เส้นเอ็นแข็งตึง เกิดโรคพังผืดกดทับเส้นประสาท ตามข้อมือ (เกิดจากการพิมพ์ดีด) ทำให้มือชา เจ็บปลายนิ้ว อาการหนัก คือ ต้องสะบัดมือให้หายชา ในเวลากลางคืน และไม่สามารถพิมพ์ดีดต่อไปได้ ซึ่งสาเหตุเหล่านี้อาจเป็นเหตุทำให้เกิดโรคอัมพฤกษ์ในช่วงสูงวัยได้ 

ควรศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม
          บทความนี้เป็นเพียงข้อมูลเบื้องต้น ควรศึกษาข้อมูลโยคะเพิ่มเติมบนเว็บไซต์ต่างๆ, หนังสือโยคะ, ครูผู้สอน เป็นต้น 

ข้อควรระวังในการเล่นโยคะ
          ระหว่างฝึกเล่นโยคะ ควรทำตามผู้สอนอย่างเคร่งครัด เพื่อที่จะเล่นให้ถูกท่า พยายามจัดกระดูก เพราะโยคะเป็นการจัดกระดูก ผ่อนคลายกล้ามเนื้อ ยืดเส้นเอ็น ซึ่งการเล่นโยคะที่ถูกท่า จะทำให้สุขภาพแข็งแรง 

แนะนำครูโยคะที่เก่ง (09/2007)
          Master Kamal สอนโยคะ

สรุปว่า ควรเล่นกีฬาให้ครบทุกประเภท
     1. วิ่ง ว่ายน้ำ จักรยาน (กระตุ้นหัวใจ ระบบหมุนเวียนโลหิตให้เส้นเลือดแตกแขนงมากขึ้น)
     2. โยคะ (เส้นเอ็น กล้ามเนื้อ กระดูก รูปร่างสวยงาม)
     3. แบดมินตัน, เทนนิส (การเคลื่อนไหว ประสาทสัมผัส การตัดสินใจ ความไว สายตา)
     4. เล่น weight (เพื่อกระชับกล้ามเนื้อ ไม่ให้กล้ามเนื้อเสื่อมสภาพเร็ว รูปร่างสวยงาม)
     5. หมากกระดานต่างๆ, หมากล้อม, ไพ่บริดจ์ (ฝึกสมอง)
     6. การทำงานบ้าน กวาดบ้าน ถูบ้าน ล้างจาน ล้างรถ เป็นการออกกำลังกายเช่นกัน การออกกำลังกาย คือ การทำให้ร่างกายมีการเคลื่อนไหว ผลัดเปลี่ยนอิริยาบถทั้ง ๔ ยืน เดิน นั่ง นอน เพื่อสมดุลของร่างกาย แต่เราก็ควรเล่นกีฬาเป็นประจำด้วย
เขียนโดย : รู้ไว้มีสุข

กีฬาที่ควรเล่น

โยคะ

Pilates (พิลาทิส)

Running
(วิ่งดีกว่า ง่ายและประหยัด)

Swimming
(ลดน้ำหนักได้เร็วจริง)
(ลดการบาดเจ็บพร้อมทั้งบริหารข้อต่อและกล้ามเนื้อในขั้นตอนเดียว)

Tennis
(เหนื่อยและหนัก เหมาะสำหรับคนแข็งแรงจริงๆ)

Badminton
(ฝึกความไว ความคล่องตัว)

ลูกบอลสำหรับเล่นโยคะและทำกายภาพบำบัด
ขนาด 65 เซนติเมตร เป็นขนาดที่พอเหมาะ
ซึ่งลูกบอลจะช่วยบริหารกล้ามเนื้อหลังได้เป็นอย่างดี

เขียนโดย : รู้ไว้มีสุข (กิ๊ก)

----------------------------------------------------------
เรื่องราวปวดกล้ามเนื้อยังไม่จบเพียงเท่านี้

อ่านบทความวิธีรักษาอาการปวดกล้ามเนื้อ Office Syndrome อื่นๆ ได้ที่ (คลิก)
----------------------------------------------------------